การออมเงินคือรากฐานสำคัญของความมั่นคงทางการเงิน มนุษย์เงินเดือนที่มีรายได้ประจำสามารถวางระบบออมเงินได้ง่ายกว่าที่คิด เพียงแค่รู้จักวางแผนและมีวินัย
1) ออมก่อนใช้ ไม่ใช่เหลือแล้วค่อยออม
ทันทีที่เงินเดือนเข้าบัญชี ควรโอนเงินส่วนหนึ่งเข้าสู่บัญชีออมโดยอัตโนมัติ เพื่อไม่ให้เผลอใช้ไปก่อน หลักการนี้เรียกว่า Pay Yourself First หรือ “จ่ายให้ตัวเองก่อน”
2) ใช้กฎ 50/30/20 จัดการรายได้
- 50% สำหรับค่าใช้จ่ายจำเป็น เช่น ค่าเช่าบ้าน ค่ากินอยู่
- 30% สำหรับความสุข ไลฟ์สไตล์
- 20% สำหรับออมและลงทุน
หากมีหนี้สิน อาจปรับเป็น 60/20/20 หรือ 70/15/15 เพื่อลดภาระหนี้ก่อน
3) ตั้งเป้าหมายการออมให้ชัดเจน
การมีเป้าหมายช่วยสร้างแรงจูงใจ เช่น
- เก็บเงิน 100,000 บาท ภายใน 1 ปี สำหรับกองทุนฉุกเฉิน
- เก็บเงินดาวน์รถ/บ้าน ภายใน 3–5 ปี
- เก็บเพื่อเกษียณในระยะยาว
4) สร้างกองทุนฉุกเฉิน
ควรมีเงินสำรองอย่างน้อย 3–6 เดือนของค่าใช้จ่ายจำเป็น เก็บในบัญชีที่สภาพคล่องสูง ถอนง่าย เช่น บัญชีออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูง หรือกองทุนตลาดเงิน
5) ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
- ทำอาหารกลางวันเอง แทนการซื้อทุกวัน
- จำกัดค่าใช้จ่ายร้านกาแฟหรือสตรีมมิ่ง
- ช้อปปิ้งออนไลน์อย่างมีลิมิต
ตัวอย่าง: ถ้าลดกาแฟจากวันละ 60 บาท เหลือสัปดาห์ละ 3 วัน จะประหยัดได้เกือบ 7,000 บาท/ปี
6) ใช้เทคโนโลยีช่วย
แอปพลิเคชันบริหารการเงินสามารถช่วยบันทึกรายรับรายจ่าย สรุปค่าใช้จ่าย และตั้งเป้าหมายออม ทำให้ควบคุมเงินได้ง่ายขึ้น
เช็กลิสต์สำหรับมนุษย์เงินเดือน
- เปิดบัญชีออมแยกต่างหาก
- ตั้งโอนอัตโนมัติทันทีที่เงินเดือนเข้า
- ใช้กฎ 50/30/20 หรือปรับตามความเหมาะสม
- บันทึกรายรับรายจ่ายทุกเดือน
- รีวิวเป้าหมายการเงินทุก 6 เดือน